เกมการเดิมพันอย่างบาคาร่าออนไลน์ ถือเป็นการเดิมพันออนไลน์อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักเดิมพันเป็นอย่างมาก เพราะสามารถทำกำไรได้ง่ายและรวดเร็วนั่นเอง โดยนักเดิมพันที่สามารถทำกำไรจากการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ได้เป็นจำนวนมากมักจะใช้การดูลายไพ่บาคาร่าเข้ามาประกอบ ซึ่งนักเดิมพันมือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าลายไพ่บาคาร่ามีกี่รูปแบบและมีวิธีการดูอย่างไรใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นอย่ารอช้าไปติดตามพร้อมๆ กันได้เลย
ลายไพ่บาคาร่าคืออะไร ทำไมนักเดิมพันมือใหม่ต้องรู้
ลายไพ่บาคาร่าคือสิ่งสำคัญที่สุดที่นักพนันบาคาร่าต้องรู้และเข้าใจ ลายไพ่นั้นบ้างก็เรียกว่าขอนไพ่ แต่ทีนิยมเรียกกันมากที่สุดและคุ้นหูพวกเราเป็นอย่างดีก็คือเค้าไพ่ ซึ่งลายไพ่ ขอนไพ่ เค้าไพ่ พวกนี้ล้วนมีความหมายเดียวกันทั้งสิ้น ใครที่เคยอ่านเรียกเค้าไพ่มาแล้วน่าจะเข้าใจดีว่ามีความสำคัญต่อนักพนันมากแค่ไหนโดยเฉพาะมือใหม่ ซึ่งลายไพ่ก็จะมีคำอธิบายไม่ต่างกันมากนัก เพราะถือว่าเป็นพื้นฐานที่นักพนันสายไพ่ต้องศึกษาอยู่แล้ว หากไม่ศึกษาก็อาจจะนำพามาซึ่งหายนะของการพนันบาคาร่าได้ ขอบอกก่อนว่าหายะจริงไม่ได้ล้อเล่น ลายไพ่ที่เราจะมาแนะนำมีทั้งหมด 5 รูปแบบ ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกันแล้วก็ถือว่าได้ทบวนไปในตัว ส่วนใครที่เป็นมือใหม่พึ่งได้มารู้จักกับลายไพ่บาคาร่าก็ขอให้ตั้งใจอ่านกันให้ดี มาเริ่มกันที่ลายไพ่บาคาร่าลำดับที่ 1 ลายไพ่หางมังกร
1.ลายไพ่หางมังกร
เริ่มกันที่ลายไพ่หางมังกรนักเดิมพันจะต้องสังเกตสถิติการออกไพ่ย้อนหลังเอาไว้ให้ดี เมื่อไรก็ตามที่ลักษณะการออกไพ่ย้อนหลังเป็นการออก BANKER ติดต่อกัน 3 เกมขึ้นไป จะถือว่าเข้าลักษณะของลายไพ่หางมังกร ให้นักเดิมพันวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือต่อไปได้เลย เพราะโอกาสที่จะออกซ้ำสูงเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุที่เรียกกันว่าลายไพ่หางมังกรก็มาจากลักษณะของตารางสถิติที่มีการออก BANKER ซ้ำกันเป็นสีแดงเรียงเต็มกระดานไปหมดคล้ายกับลักษณะของหางมังกรนั่นเอง
2.ลายไพ่ปิงปอง
สำหรับลายไพ่ปิงปองนักเดิมพันจะต้องสังเกตสถิติการออกไพ่ย้อนหลังเอาไว้ให้ดี เพราะเมื่อไรก็ตามที่ลักษณะการออกไพ่ย้อนหลังเป็นการออกสลับกันไปมาระหว่าง BANKER และ PLAYER ติดต่อกัน 3 ครั้ง หรือ 6 เกมขึ้นไป จะถือว่าเข้าลักษณะของลายไพ่ปิงปอง ให้นักเดิมพันวางเดิมพันสลับฝั่งกันต่อไปได้เลย เพราะโอกาสที่จะออกซ้ำสูงเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุที่เรียกกันว่าลายไพ่ปิงปองก็มาจากลักษณะของตารางสถิติที่มีการออก BANKER และ PLAYER สลับกันไปมา คล้ายกับลักษณะของการตีปิงปองตอบโต้กันไปมานั่นเอง
3.ลายไพ่ 2 ตัวติด
มาต่อกันที่ลายไพ่ 2 ตัวติด นักเดิมพันจะต้องสังเกตสถิติการออกไพ่ย้อนหลังเอาไว้ให้ดี เมื่อไรก็ตามที่ลักษณะการออกไพ่ย้อนหลังเป็นการออกสลับกันไปมาระหว่าง BANKER 2 ครั้งติด และ BANKER 2 ครั้งติด ติดต่อกัน 2 ครั้ง หรือ 8 เกมขึ้นไป ถือว่าเข้าลักษณะของลายไพ่ 2 ตัวติด ให้นักเดิมพันวางเดิมพันสลับฝั่ง ฝั่งละ 2 ครั้ง ติดต่อกันไปได้เลย เพราะว่ามีโอกาศที่จะออกซ้ำสูงเป็นอย่างมาก
4.ลายไพ่ 2 ตัวตัด
ลายไพ่บาคาร่าต่อมาเป็นลายไพ่ 2 ตัวตัด โดยนักเดิมพันจะต้องสังเกตสถิติการออกไพ่ย้อนหลังเอาไว้ให้ดี เมื่อไรก็ตามที่ลักษณะการออกไพ่ย้อนหลังเป็นการออก ซ้ำกัน 2 ครั้ง และเป็นอีกฝั่งหนึ่ง 1 ครั้งติดต่อกัน 2 ครั้ง หรือ 6 เกมขึ้นไป ถือว่าเข้าลักษณะของลายไพ่ 2 ตัวตัด ยกตัวอย่างเช่น BANKER BANKER PLAYER BANKER BANKER PLAYER เป็นต้น ให้นักเดิมพันวางเดิมพันสลับฝั่ง 2 ครั้งและ 1 ครั้ง ติดต่อกันไปได้เลย เพราะว่ามีโอกาสที่จะออกซ้ำสูงเป็นอย่างมาก
5.ลายไพ่มังกรน้ำเงิน
ปิดท้ายกันด้วยลายไพ่น้ำเงิน ซึ่งถือเป็นลายไพ่ที่เริ่มปรากฏให้บ่อยขึ้นในช่วงหลัง ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับลายไพ่หางมังกร โดยนักเดิมพันจะต้องสังเกตสถิติการออกไพ่ย้อนหลังเอาไว้ให้ดี เมื่อไรก็ตามที่สถิติการออกไพ่ย้อนหลังเป็นการออกฝั่ง PLAYER ติดต่อกัน 3 เกมขึ้นไป ถือว่าเข้าลักษณะของลายไพ่ผู้เล่น ให้นักเดิมพันเลือกวางเดิมพันฝั่งผู้เล่นติดต่อกันไปได้เลย เพราะว่ามีโอกาสสูงเป็นอย่างมากที่จะออกซ้ำ ซึ่งสาเหตุที่เรียกกันว่าลายไพ่มังกรน้ำเงินก็มาจากลักษณะของตารางสถิติที่มีการออก PLAYER ซ้ำกันเป็นสีน้ำเงินเรียงเต็มกระดานไปหมดคล้ายกับลักษณะของมังกรนั่นเอง
บทสรุปลายไพ่บาคาร่า
อันที่จริงแล้ว การดูลายไพ่บาคาร่านั้นถือเป็นสิ่งที่นักเดิมพันมือใหม่ทุกคนควรจะต้องศึกษาให้มีความชำนาญ ซึ่งเรื่องของลายไพ่นั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้นักเดิมพันสามารถทำเงินจากบาคาร่าออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ถึงแม้การดูลายไพ่บาคาร่านั้นอาจจะไม่ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการเดิมพันมั่วๆ แบบไม่มีหลักการณ์อย่างแน่นอนจริงไหม
